ทุนนิยมใช้เงินทำงาน x พัฒนาควายไทย 2566
ปัจจัยสำหรับพัฒนาควายไทยคือ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แรงงาน ทักษะ การตลาด ... สู่เป้าหมายความสำเร็จรางวัลและชื่อเสียง แต่ละฟาร์มควายไทย ปูด้วยพรมแดง หรือ ถนนลูกรัง ที่มีน้ำขัง กันแน่
หากจะย้อนไปหลาย xx ปีก่อนเราๆ มักจะคุ้นหูกับวลี “เลี้ยงควาย ส่งลูกเรียน” ขายควายปลดหนี้ บลาๆๆๆ ฟังแล้วเหมือนจะดูดี… แต่ผมเองกลับมองว่าสร้างภาระ แก้ปัญหาแบบขอไปที ไม่ยั่งยืน ไม่มีอนาคต ไร้จุดหมาย… เพื่อนๆ ล่ะคิดว่าอย่างไร ชาวเกตรกรที่เลี้ยงควายมานานแสนนานเท่านั้นที่จะเข้าใจ แก่นลึกนี้จริงๆ ครับ
เพราะต่างจังหวัด 80–99% ก็พูดได้ทุกบ้านต้องมีควาย หรือ วัว เลี้ยงติดบ้าน นอกเหนือจาก สุกร เป็ด และ ไก่ ไม่รวม น้องหมา น้องแมว สัตว์ตัวน้อยเลี้ยงไว้ แก้เหงา เป็นเพื่อนคุย ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเกตรกร ทางเลือกมีน้อยมาก นอกจากทำนา ทำไร่ เป็นอาชีพหลัก… ครัวเรือนไหนมีเนื้อที่เยอะ นอกเหนือจากเพาะปลูก ก็แบ่งเนื้องที่สำหรับเลี้ยงควาย เลี้ยว วัว เพื่อกระจายรายได้ หวังว่าจะมีรายได้หมุนเวียน ส่งลูกชาย ลูกสาว ได้เรียนหนังสือ สุงๆ และ สร้างเป็นรายได้นอกเหนือจากการขายข้าวนาปี และ นาปรัง ซึ่งราคผันผลวน ตลอดมา หลายสิบปี ต้องลุ้นว่ารัฐบาลไหน ราคาข้าวสูง ก็เฮ กันทีนึง… ชาวนาเกตรกร เหมือนมีกรรม ที่ต้องแก้กันไปปีต่อปี ซึ่งคนรอด คนรวย แทบเป็น 0.000% เทียบกับพ่อค้าคนกลาง รวยเอาๆ หรือไม่จริง !!!
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เลี้ยงควายตัวโต ตัวใหญ่ ถูกนายทุนกดราคา แบบไม่มีทางเลือก ต้องกัดลิ้นกันฟัน ตัดใจขายออกไป ไม่งั้นไม่มีเงิน จุนเจือครอบครัว และ ส่งเงินให้ลูกได้ไปเรียน ในเมืองหลวง… นั้นแหละครับ ชีวิตลูกชาวนา พ่อแม่เป็นเกตรกร ลูกคนไหนเรียนจบมาได้ด้วย วงจรชีวิตแบบนี้ จะโครตภูมิใจ สุดๆๆ
ย้อนกลับมาปี 2566 โลกเปลี่ยนยุค ทุกบ้านมีไฟฟ้า น้ำปะปา อินเทอร์เน็ต และ โทรศัพท์มือถือ ที่เล่นโซเซียล และ รับรู้ข่าวสารได้ เท่าเทียมกัน แต่สิ่งหนึ่ง ที่มีไม่เหมือนกันคือ “เงินทุน” ในกระเป๋านายทุน กับ กระเป๋าชาวเกตรกร จะเท่ากันได้อย่างไร ซึ่งแน่นอน นายทุน ใช้เงินทำงาน แบบเสกและจัดสรรได้ตามสั่ง ตามจำนวนเงินที่มี แลกกับ ทักษะ แรงงาน ของชาวเกตรกร ที่ผ่านประสบการณ์ เลี้ยงควายมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรษ อ่านแล้วโหว ขิงโครต… แต่เรามามองที่ข้อดีคือ โอกาสของเกตรกรคนเลี้ยงควาย ได้นำประสบการณ์มาใช้ และ รับค่าจ้างแลกกับวิชาชีพในด้านการเลี้ยงและฝึกฝนควายพัฒนาสู่ สนามประกวด แข่งขัน เพื่อได้รางวัลมา ทั้งเงินที่ได้มาจุนเจือครอบครัว ร่วมเป็นหนึ่งในทีมพัฒนาควายให้นายทุน แล้วสำเร็จบรรลุเป้าหมายด้วยรางวัลแกรนด์แชมป์ หรือ แชมป์สนามต่างๆ… เพียงเท่านี้ก็ภาคภูมิใจมากแล้ว สำหรับ พี่น้องชาวเกตรกร…..
แต่ๆ ก็ไม่ได้แย่และดราม่าขนาดนั้น เกตรกรบางกลุ่ม มีการวางแผนการใช้ชีวิต ตั้งใจประกอบอาชีพ จะทำนา หรือ เลี้ยงควายไทย พัฒนาเป็นอาชีพ ก็มีเยอะ แต่จำนวนน้อย… จึงเป็นผลลัพธุ์ที่ทำให้เกตรกรกลุ่มนี้ ลืมตาอ้าปาก และ เป็นเศรษฐี ชั่วข้ามคืน เพียงแค่ ขายควายไทย ให้กับนายทุน แค่ 1 ตัว ก็เกิดขึ้นแล้วในยุคนี้…
และเมื่อกระแสควายไทยสายพัฒนา และ ราคาตลาดเป็นที่น่าสนใจ และ น่าลงทุน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว สำหรับนายทุน ที่พร้อมด้วยเงินทุนแล้ว ไม่เป็นอุปสรรค หากต้องการ เนรมิตร ฟาร์มควายไทย สวยๆ ขึ้นมาสัก 1 ฟาร์ม ไม่ใช่เรื่องยาก อีกต่อไป… คอกไหน ฟาร์มไหน มีควายใหญ่ ควายดัง มีชื่อเสียง นายทุนพร้อมดีล จะดีลเล็ก หรือ บิ๊กดีล ก็พร้อมเพย์ เพื่อนำควายเข้าฟาร์ม เพื่อขับเคลื่อนต่อได้อย่าง ง่ายดาย เพราะเงินทุน แก้ปัญหา ที่มีปัญหาได้ทุกปัญหา ครบ จบ ทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ทักษะคน ค่าแรง สถานที่ไม่มี ก็ซื้อ เนรมิตรขึ้นมา หรือ ทีมงานการตลาด หาได้ไม่ยาก ขอให้เงินทุนถึง เราพร้อมเนรมิตรให้ท่านทุกอย่าง ได้ทันที ครับ เจ้านาย!!!
ทุกอาชีพ มีโอกาส และ มีสิทธิเลือกการดำรงและใช้ชีวิต ตามแบบฉบับของตนเอง #เอกควายไทย อุทัยธานี ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ได้รับโอกาส เพิ่มรายได้ มีชีวิตที่ดีทุกครัวเรือน ทั่วประเทศไทย นะครับ ความเจริญทางความคิด ความเจริญด้านเทคโนโลยี ทุกคนเลือกนำมาใช้ พัฒนาให้ถูก จริต ถูกที่ และ ถูกเวลาได้แล้ว
ขอขอบคุณที่ติดตาม หากคำพูดใด ที่ผิดพลาด ในการเรียบเรียง ไม่ตรงจริต หรือไม่ถูกจริตท่านใด ต้องกราบขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เราจะไม่ดัดจริต แต่ใช้ชีวิตแบบมีสติ ปัญญาแบบ มีอัตตา …. ครับ
ขอให้โชคดีครับพี่น้องชาวเกตรกรไทย ทุกคน #เอกควายไทย อุทัยธานี